ตื่นเช้า ทริปญี่ปุ่นวันที่สาม (4 สิงหาคม 2555) พร้อมกับรับประทานอาหารที่โรงแรม Fujinoboukaen กับวิวภูเขาไฟฟูจิในยามเช้า
หน้าโรงแรมสวยมากครับ ของซัก 2-3 รูป
เดินทางสู่ “โอชิโนะ ฮักไก” ซึ่งเป็นจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิได้สวยงามที่สุดอีกจุดหนึ่งซึ่งเป็นที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมากและที่นี่ยังมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์อันแสนบริสุทธิ์ ซึ่งเกิดจากน้ำฝนไหลผ่านด้านบนภูเขาไฟฟูจิและผ่านเข้ามาภายในและสุดท้ายไหลลงสู่ด้านล่างซึ่งใช้เวลายาวนานถึง 3 - 4 ปี ซึ่งน้ำในบ่อนี้ชาวบ้านเชื่อกันว่าถ้านำมาดื่มนอกจากจะได้ความสดชื่นจากการลิ้มรสน้ำอันบริสุทธิ์ ยังจะทำให้สุขภาพแข็งแรงและจะมีโชคดีอีกด้วย ที่นี่สามารถซื้อของที่ระลึกจากร้านค้าที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณนี้อย่างสำราญใจ
ลงจากรถบัสระหว่างทางเดินไปบริเวณบ่อน้ำศักสิทธิ๋ เห็นดอกไม้ ถ่ายซะหน่อย สวยดีครับ
อันนี้เป็นร้านค้า บริเวณสองข้างทางเดิน
วิวสองข้างทางตอนเดินกลับไปที่รถบัส
เดินทางต่อไป เปลี่ยนบรรยากาศของการเดินทางด้วยการ “ล่องเรือโจรสลัดทะเลสาบอาชิ” ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟฮาโกเน่เมื่อกว่า 3,000 ปีมาแล้ว ทั้งยังเป็นจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิได้ดีอีกแห่งหนึ่งด้วย
ไปขึ้นเรือกัน
วิว ทิวทัศน์ และสาวๆ ญี่ปุ่น เอิ๊กๆ
จากแผนที่ เส้นสีเหลืองคือการเดินทางด้วยเรือโจรสลัด เส้นสีชมพู คือการเดินทางด้วยกระเช้าไปยังโอวาคูดานิ
ลงจากเรือโจรสลัดปุ๊บ ต่อด้วยขึ้นกระเช้าลอยฟ้าที่สถานี Togendai-ko เดินทางสู่ “โอวาคุดานิ” หรือหุบเขานรกที่เกิดขึ้นจากการปะทุขึ้นมาของภูเขาไฟฮาโกเน่เมื่อหลายพันปีก่อน ทำให้เกิดควันและบ่อน้ำร้อนผุดขึ้นมาจากใต้ดิน น้ำและควันเหล่านี้จะมีส่วนผสมของกำมะถันที่มีเอกลักษณ์พิเศษอยู่ด้วยโดยความร้อนของน้ำที่ผุดขึ้นมานั้นสามารถต้มไข่ให้สุกได้และจะทำให้เปลือกไข่กลายเป็นสีดำ โดยกล่าวกันว่าถ้าใครได้ทานไข่ดำหนึ่งฟองอายุจะยืนขึ้นอีกเจ็ดปีเลยทีเดียว
บนสถานีกระเช้าลอยฟ้ามีที่ให้แชะกัน
อยู่บนกระเช้าแล้ว
ถึงแล้วหุบเขานรก
กินมื้อเที่ยงที่นี่เลย อาหารญี่ปุ่นแบบเซ็ตเมนู ปลาทรงเครื่องราดซอสแบบญี่ปุ่น พร้อมด้วยเครื่องเคียงเป็นผักดองสไตล์ญี่ปุ่น เสิร์ฟพร้อมด้วยซุปเต้าเจี้ยวหรือซุปมิโซะญี่ปุ่น ข้าวสวยร้อนๆและชาญี่ปุ่น ที่ขาดไม่ได้คือไข่ดำ !
อิ่มแล้ว ช้อปปิ้งกันนิดหน่อย แล้วจ่ายตังที่นี่
ไอกำมะถันที่พุ่งขึ้นมาจากภูเขา
ที่นี่มีฝนตกโปรยปรายนิดๆ ก็เลยต้องกางร่มกันหน่อย ^^
กระเช้าที่่วิ่งผ่านหุบเขา
ขอลงรูปผู้เขียนบ้าง ^^
จากนั้นก็เดินทางต่อไปยังสถานีรถไฟฟ้าชินกันเซน ที่เมืองโยโกฮาม่า มุ่งหน้าไปยังกรุงโตเกียว
ตั๋วรถไฟฟ้าชินกันเซน + รถไฟฟ้า JR
บนรถไฟฟ้าชินกันเซน
เส้นทางที่นั่งรถไฟฟ้าชินกันเซน จากเมืองโยโกฮาม่า ไปยังสถานีชินะงะวะ ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีกว่าๆ เดินทางสู่ “กรุงโตเกียว” เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น โตเกียวตั้งอยู่บริเวณภาคคันโตของญี่ปุ่น คำว่า "โตเกียว" หมายถึง "นครหลวงตะวันออก" เมืองโตเกียวมีระบบการปกครองแบบพิเศษซึ่งรวมการปกครองในรูปแบบจังหวัดและเมืองไว้ด้วยกัน และเป็นเขตเมืองที่ใหญ่ที่สุดและมีประชากรมากที่สุดในโลกเมืองหนึ่ง ในปี 2548 โตเกียวได้รับการจัดอันดับเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก โดยในปี 2550 โตเกียวได้เป็นอันดับที่ 4 รองจาก มอสโก ลอนดอน และ โซล
สถานีชินะงะวะ เดินทางต่อไปยังชินจูกุ ด้วยรถไฟฟ้า JR
“ชินจูกุ” ย่านแห่งความเจริญอันดับหนึ่งของกรุงโตเกียว ท่านจะได้พบกับห้างสรรพสินค้า และร้านขายของนับเป็นพัน ๆ ร้าน ซึ่งจะมีผู้คนนับหมื่นเดินกันขวักไขว่ ถือเป็นจุดที่นัดพบยอดนิยมอีกด้วย เชิญท่านเลือกชมสินค้ามากมาย อาทิเช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า, กล้องถ่ายรูปรุ่นล่าสุด, IPOD, MP-3, NOTEBOOK, SANRIO SHOP, GAMES SHOP, นาฬิกา, เสื้อผ้า, รองเท้าแฟชั่นทันสมัย และเครื่องสำอาง เป็นต้น ... “ชินจูกุ” หมายถึง “ที่พำนักใหม่” ในสมัยเอโดะ โตกุกาว่า อิเอยะสึ ได้มีคำสั่งให้สำรวจย่านนี้ตามคำขอของพวกพ่อค้าและตั้งเมืองหน้าด่านขึ้นบนถนนโคชุไคโด ไม่นานก็กลายเป็นชุมชนที่ใหญ่ที่สุดในสมัยนั้น มีทั้งโรงน้ำชา ร้านค้า โรงเตี๊ยมและหอคณิกาอีกกว่า 50 แห่ง
ชินจูกุ
จากนั้น เดินทางกลับไปที่ “นาริตะ” เมืองนี้เริ่มมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เมื่อนายกรัฐมนตรีซาโตะ เอซากุ เริ่มวางแผนการก่อสร้างท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะในปี พ.ศ. 2509 การสร้างท่าอากาศยานและการเชื่อมต่อเส้นทางเข้าสู่ใจกลางกรุงโตเกียว ทำให้เกิดการพัฒนาทั้งด้านอาคารบ้านเรือน ธุรกิจ และอุตสาหกรรมภายในเมืองนาริตะอย่างรวดเร็ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น